วันจันทร์ที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2562

Present perfect tense

โครงสร้าง
S. + have/has + กริยา ช่อง3
1.ใช้พูดถึงอดีตที่ผ่านมาโดยไม่ระบุเวลา
2. ใช้ในการเปลียนแปลงในบางสิ่งบางอย่าง
3.ใช้กับความสำเร็จหรือการบรรลุเป่าหมาย
4.ใช้ในอดีต แล้วทำจนมาถึงปัจจุบัน
5.พูดถึงเหตการณ์ที่จบลงแล้ว

(พหูพจน์)
I + have หรือ have + i.
You + have หรือ have +  you.
We + have หรือ have +  we.
They + have หรือ have + they.

(เอกพจน์)
He + has หรือ has + he.
She + has หรือ has + she.
It + has หรือ has + it.

โครงสร้างประโยคบอกเล่า S.+have\has+v.3
 เช่น I have eaten.
โครงสร้างประโยคคำถาม Have+S.+v.3
  เช่น have  i eatten ?
โครงสร้างประโยคปฎิเสธ S.+have/has+not+v.3
 เช่น I have not eaten.




Present perfect Tense by yee






Present prefect tenses by mookThak

Present perfect 

โครงสร้าง
S + has/have + v.3

👱🏻‍♂️He }has
🧑🏻She }has
🐻It }has

🙋🏻‍♀️I }have
👬You }have
👨‍👩‍👧‍👦We }have
👨‍👩‍👧‍👧They }have

1)ใช้พูดถึงประสบการณ์ในอดีตโดยไม่ระบุว่าทำตอนไหน
 Examples
            I have been to Australia.
            I have never been to space.
          Q: Have you never been to Japan.
          A: No. I have never been to Japan.

2)ใช้พูดถึงการเปลี่ยนแปลงของบางสิ่งในช่วงเวลาหนึ่ง
 Examples
            House prices have increased a lot.
            This somtum shop has become very popular in Thailand.

3)ใช้พูดกับความสำเร็จ/บรรลุเป้าหมาย
Examples 
            Doctor have discovered cures for many diseases.
            Man has been to the moon

4)ใช้พูดเหตุการณ์ที่ดำเนินการอยู่
Examples 
            Dave has worked here for 7 year.
            We have been in a relationship for 3 months.

5)พูดถึงเหตุการณ์ที่พึ่งจบลง (โดยมักจะใช้คำว่า Already/yet)
Examples 
           Q: Daddy, have you finished cooking dinner yet.
                         A: Just finished.



PRESENT PERFECT TENSE By PLOY

 PRESENT PERFECT TENSE
โครงสร้าง
S+have/has+v.3

He,She,It } has
I,You,We,They } have
   
ประโยคบอกเล่า
I have 
He has 

ประโยคคำถาม






Present perfect by new

                                             Present Perfect tense

โครงสร้าง     S.+ have/has + V.3

1.ใช้พูดถึงประสบการณ์หรือสิ่งที่เราเคยทำในอดีตโดยที่ไม่ได้บอกเวลา
2.ใช้พูดถึงการเปลี่ยนแปลง บางสิ่งในช่วงในเวลาใดเวลาหนึ่ง
3.ใช้พูดถึงความสำเร็จ หรือการบรรลุเป้าหมาย
4.ใช้พูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต(การดำเนินการ)
5.ใช้พูดถึงเหตุการที่จบลงเเล้ว

   I       have                                      He   has
  You   have                                     She



 has
  We    have                                      It     has
  They have
                                      present  perfect

โครงสร้าง: S. + has/have + V.3
    
        หลักการใช้ persent perfect  
  1. ใช้กับเหตุการณ์ที่ เกิดขึ้นในอดีต และดำเนินต่อเนื่องมายังปัจจุบัน และมีแนวโน้นที่จะดำเนินต่อไปได้อีกในอนาคต เช่น 

    I have had a lot of toys.
    ฉันมีของเล่นมากมาย (และอาจจะมีของเล่นเพิ่มขึ้นอีกในอนาคต)

  2. ใช้กับเหตุการณ์ในอดีตที่ เกิดขึ้นและสิ้นสุดลงแล้ว แต่ยังส่งผลมายังปัจจุบัน เช่น

    It has stopped raining.
    ฝนหยุดตกแล้ว (แต่ถนนยังเปียกอยู่)

  3. ใช้พูดถึง เหตุการณ์หรือการกระทำที่เกิดขึ้นซ้ำๆกัน ในช่วงเวลาหนึ่งระหว่างอดีตและปัจจุบัน โดยมักใช้คำว่า many/several times, a lot of times, …times, again and again, over and over และอื่นๆ เช่น

    I’ve read this book more than 3 times. (ฉันอ่านหนังสือเล่มนี้มามากกว่าสามรอบแล้ว)

  4. ใช้กับเหตุการณ์ที่ เพิ่งสิ้นสุดลง โดยไม่ระบุเวลา ซึ่งมักใช้กับ just, already และ yet 

  • yet มักใช้ในประโยคปฏิเสธ ส่วน just และ already นั้น มักจะใช้กันในประโยคบอกเล่า โดยวางไว้อยู่หน้ากริยาหลัก เช่น 

I haven’t finished my homework yet. (ฉันยังทำการบ้านของฉันไม่เสร็จเลย)

I have just finished my home work. (ฉันเพิ่งทำการบ้านของฉันเสร็จ)

I’ve already finished my homework. (ฉันทำการบ้านของฉันเสร็จเรียบร้อยแล้ว) 
  • หากเราระบุเวลาลงไป ประโยคจะต้องใช้ Past Simple Tense เท่านั้น ไม่สามารถใช้ Present Perfect Tense ได้ เช่น 

I finished my homework at 7 o’clock. (ฉันทำการบ้านเสร็จแล้วตอนเจ็ดโมงเช้า)

  1. ใช้เพื่อบอกเล่าถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นเร็วๆ นี้ ซึ่งมักใช้กับ just, recently, lately และอื่นๆ

    The meeting has just started. (การประชุมเพิ่งจะเริ่มขึ้น)

    Have you seen him lately? (คุณได้เจอเขาเมื่อเร็วๆนี้บ้างไหม) 

  1. ใช้กับ since (ตั้งแต่) และ for (เป็นเวลา)
  2. I have been here since I was about 15 years old.
    ฉันอยู่ที่นี่มาตั้งแต่อายุ 15 (ปัจจุบันฉันก็ยังคงอยู่ที่นี่)

    I have had a fever for almost a week.
    ฉันเป็นไข้มาประมาณอาทิตย์หนึ่งได้แล้ว (ปัจจุบันฉันก็ยังคงเป็นไข้อยู่เช่นเดิม)

















                        ,                               present prefect tense

     I you We They/have      He She It/has

   โครงสร้างประโยคบอกเล่า:S+has/have+V.3
                     ตัวอย่าง:I have eaten.
    
   โครงสร้างประโยคคำถาม:have/has+S+V.3
                     ตัวอย่าง:Have I eaten.
    
   โครงสร้างประโยคปฏิเสธ:S+have/has+not+V.3
                     ตัวอย่าง:I have not eaten
     
    have not=haven’t
    has not=hasn’t
          
     การตอบYes/No
     
     Yes’I have.
     No’I have not.
                                 



                     PRESNT PERFECT


        
  โครงสร้าง: S. + has/have + V.3

  • สิ่งหรือเหตุการณ์ที่เริ่มต้นในอดีตและยังคงเกิดขึ้นมาจนถึงปัจจุบัน เช่น  have lived in Bristol since 1984 (= และตอนนี้ฉันก็ยังคงอยู่ที่นั่น)
  • สิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาหนึ่งและยังไม่เสร็จสิ้น เช่น She has been to the cinema twice this week (= ยังไม่หมดสัปดาห์)
  • สิ่งที่เกิดขึ้นซ้ำ ๆ ในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งที่ไม่ได้ระบุไว้อย่างเจาะจงระหว่างอดีตและปัจจุบัน เช่น We have visited Portugal several times.
  • สิ่งที่พึ่งทำเสร็จไปเมื่อสักครู่ที่ผ่านมา มักจะใช้คำว่า  'just' เช่น have just finished my work.
  • การกระทำบางอย่างที่เวลาไม่ใช่ตัวบ่งชี้ที่สำคัญหรือไม่ได้ระบุไว้อย่างชัดเจน เช่น  He has read 'War and Peace'. (= ผลจากการอ่านหนังสือของเขาเป็นสิ่งที่สำคัญ)  


สิ่งที่เริ่มต้นทำในอดีตและยังคงทำต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน
  • They haven't lived here for years.
  • She has worked in the bank for five years.
  • We have had the same car for ten years.
  • Have you played the piano since you were a child?
เมื่อช่วงระยะเวลาที่อ้างถึงยังไม่เสร็จสิ้น
  • I have worked hard this week.
  • It has rained a lot this year.
  • We haven't seen her today.
สิ่งที่เกิดขึ้นซ้ำ ๆ ในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งที่ไม่ได้ระบุไว้อย่างเจาะจงระหว่างอดีตและปัจจุบัน
  • They have seen that film six times
  • It has happened several times already.
  • She has visited them frequently.
  • We have eaten at that restaurant many times.
สิ่งที่พึ่งทำเสร็จไปเมื่อสักครู่ที่ผ่านมา (+JUST)
  • Have you just finished work?
  • have just eaten.
  • We have just seen her.
  • Has he just left?
การกระทำบางอย่างที่เวลาไม่ใช่ตัวบ่งชี้ที่สำคัญหรือไม่ได้ระบุไว้อย่างชัดเจน
  • Someone has eaten my soup!
  • Have you seen 'Gone with the Wind'?
  • She's studied Japanese, Russian, and English.

Present Perfect Tense

Present Perfect Tense (Tense ปัจจุบันสมบูรณ์)
  • Present  เพร๊เซินท= ปัจจุบัน
  • Perfect เพอเฟ็คท = สมบูรณ์
สมบูรณ์อย่างไร บางตำราก็ว่าเหตุการณ์มันเสร็จสิ้นสมบูรณ์แล้ว ก็เลยเรียกชื่อนี้ แต่ขอแนะนำว่าให้ใส่ใจที่การนำไปใช้อย่างไรดีกว่า

โครงสร้าง

S + HAVE, HAS + V3
ประธาน + HAVE, HAS + กริยาช่อง 3
He, She, It, A cat
has
eaten
I, You, We, They, Cats
have
eaten

หลักการใช้

หลักการใช้ present perfect tense ใช้กับ 2 เหตุการณ์ต่อไปนี้

1. ใช้กับเหตุการณ์เกิดขึ้นในอดีต ดำเนินมาจนถึงขณะนี้ และจะต่อเนื่องไปในอนาคต

ถ้าใช้เล่าเหตุการณ์แบบนี้ จะมีสองคำนี้ประกอบอยู่ด้วย คือ
⇒ for   ฟอ เป็นเวลา (กี่นาที กี่ชั่วโมง กี่วัน กีสัปดาห์ กี่ปี)
⇒ since ซินซ ตั้งแต่ (ตั้งแต่ชั่วโมงไหน วันไหน สัปดาห์ไหน เดือนไหน ปีไหน)

ตัวอย่างประโยค

  • She has studied English since July.
    หล่อนเรียน(แล้ว)ภาษาอังกฤษ ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม (เรียนตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ตอนนี้เดือนกันยายนแล้ว และมีแนวโน้มจะเรียนต่อไปอีก)
  • He’s worked in the garden since 8 o’clock.
    เขาทำงาน(แล้ว)ในสวนตั้งแต่ 8 โมงเช้า (ตอนนี้สิบโมงแล้ว มีทีท่าว่าจะทำต่อไป)
  • It has rained for three hours.
    ฝนตก (แล้ว) เป็นเวลา 3 ชั่วโมง (และมีแววว่าจะตกต่อไปอีก)
  • A boy has played football since 3 o’clock.
    เด็กชายเล่นฟุตบอล(แล้ว)ตั้งแต่ 3 โมง (ตอนนี้สี่โมงแล้ว น่าจะเล่นต่อถึงห้าโมงมั้ง)
  • have lived here for ten years.
    ฉันอาศัยอยู่ (แล้ว) ที่นี่ เป็นเวลา 10 ปี (จุดเริ่มต้นเกิดในอดีต ปัจจุบันก็ยังอยู่ที่นี่ อนาคตก็จะอยู่ต่อ)
  • You’ve watched TV for two hours.
    คุณดู(แล้ว)ทีวีเป็นเวลาสองชั่วโมง (ดูมาแล้วสองชั่วโมงและน่าจะดูต่อ ถ้าแม่ไม่ห้าม)
  • We’ve walked for five hours.
    เราเดิน(แล้ว)เป็นเวลา 5 ชั่วโมง
  • They have built the house since last year.
    พวกเขาสร้าง(แล้ว)บ้านตั้งแต่ปีที่แล้ว (ตอนนี้ก็ยังสร้างอยู่ และน่าจะสร้างต่อไปอีกหลายเดือนคงเสร็จ)
คงพอมองเห็นภาพของการใช้นะครับ สังเกตได้ว่าคำกริยาที่ใช้นั้น ต้องกระทำได้อย่างต่อเนื่องยาวนานคล้าย present continuous tense เลย
คำถามที่ใช้กับตัวอย่างด้านบนส่วนมากจะขึ้นต้นด้วย  How long……. (นานแค่ไหน)
♦ How long has she studied English? หล่อนเรียนอังกฤษนานแค่ไหนแล้ว
♦ How long has he worked in the garden? เขาทำงานในสวนนานแค่ไหนแล้ว
♦ How long has it rained? ฝนตกนานแค่ไหนแล้ว
♦ How long has a boy played football? เด็กชายเล่นฟุตบอลนานแค่ไหนแล้ว
♦ How long have you lived here? (ถาม you ตอบ I) คุณอยู่ที่นี่นานแค่ไหนแล้ว
♦ How long have I watched TV? (ถาม I ตอบ You) ผมดูทีวีนานแค่ไหนแล้ว
♦ How long have we walked? เราเดินนานแค่ไหนแล้ว
♦ How long have they built the house? พวกเขาสร้างบ้านนานแค่ไหนแล้ว

2. ใช้กับเหตุการณ์ที่จบไปแล้ว

2.1 ใช้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่นานมานี้ และเหตุการณ์นั้นก็จบลงแล้วด้วย
ถ้าใช้กับเหตุการณ์แบบนี้ มักจะมีคำเหล่านี้อยู่ด้วย
already ออลเร๊ดดิ  แล้ว
just         จัสท  เพิ่งจะ
yet         เย็ท    ยัง

ตัวอย่างประโยค

♦ She‘s just gone. หล่อนเพิ่งจะออกไป  ( คงถึงหน้าปากซอยได้)
♦ He’s already finished his homework. เขาทำการบ้านเสร็จแล้ว (เพิ่งทำเสร็จไม่นานหรอก)
♦ It’s just rained. ฝนเพิ่งจะตก (หยุดเมื่อกี้เอง พื้นยังเปียกอยู่)
♦ I’ve already drunk milk. ผมดื่มนมแล้ว (ปากยังมีหยดน้ำนมอยู่เลย)
◊ You’ve just taken a bath. เธอเพิ่งจะอาบน้ำเอง (จะอาบอีกแล้วเหรอ)
◊ We’ve already eaten rice. พวกเรากินข้าวแล้ว (ท้องยังแน่นอยู่เลย)
◊ They’ve just washed the car. พวกเขาเพิ่งจะล้างรถ (รถยังไม่แห้งดีเลย)
♦ Has she gone yet? หล่อนไปหรือยัง
♦ Has he already finished his homework? เขาทำการบ้านเสร็จแล้วใช่ไหม
♦ Have you drunk milk yet? คุณดื่มนมหรือยัง
♦ Have we already eaten rice? พวกเรากินข้าวแล้วใช่ไหม
♦ Have they washed the car yet? พวกเขาล้างรถหรือยัง
2.2 ช้กับเหตุการณ์ในอดีตที่ไม่ระบุเวลา 
ถ้าใช้กับกรณีนี้ จะไม่รบุว่าเกิดขึ้นเมื่อไหร่ บอกแค่เพียงว่า ทำแล้ว หรือไม่เคยทำ แค่นั้นเอง
  • I’ve read that book.
    ผมอ่านหนังสือเล่มนั้นแล้ว (อ่านเมื่อไหร่ไม่บอก ให้รู้ว่าอ่านแล้วก็แล้วกัน)
  • She’s got your letter.
    หล่อนได้รับจดหมายของคุณแล้ว (หลังจากถูกคุณแม่เอาไปทิ้งลงถังหลายครั้ง)
  • I’ve cut my finger.
    ผมทำมีดบาดนิ้วมือ (ดูสิ ยังไม่หายดีเลย)
  • He’s gone to England.
    เขาไปอังกฤษแล้ว(ไม่ต้องมาหาเขาอีก)
  • It’s never rained in this area.
    ฝนไม่เคยตกเลยในพื้นที่นี้
  • Have you (ever) been to England?
    คุณ (เคย) ไปอังกฤษไหม
    No, I’ve never been to England.
    ไม่ ผมไม่เคยไปอังกฤษเลย
  • Have you ever seen the rain coming out on a sunny day?
    คุณเคยเห็นฝน ออกมา(ตก) ในวันที่มีแดดจ้าไหม (เอามาจากเพลง)

ประโยคปฏิเสธ

ประโยคปฏิเสธก็ไม่ยากครับ เอา not มาต่อท้าย have / has ก็ได้แล้ว
have not ย่อเป็น haven’t
has not ย่อเป็น hasn’t
♦ She has not studied English since July.
หล่อนไม่ได้เรียนภาษาอังกฤษ ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม
♦ He hasn’t worked in the garden since 8 o’clock.
เขาไม่ได้ทำงานในสวนตั้งแต่ 8 โมงเช้า
♦ I have not lived here for ten years.
ฉันไม่ได้อาศัยอยู่ที่นี่ เป็นเวลา 10 ปี

ประโยคคำถาม

ให้เอา have, has มาวางหน้าประธานของประโยค
♦ Has she studied English since July?
หล่อนเรียนภาษาอังกฤษ ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมใช่ไหม
Yes, she has./ No, she hasn’t.
♦ Has he worked in the garden since 8 o’clock?
เขาทำงานในสวนตั้งแต่ 8 โมงเช้าใช่ไหม
Yes, he has./ No, he hasn’t.
♦ Have you lived here for ten years?
คุณอาศัยอยู่ที่นี่ เป็นเวลา 10 ปีใช่ไหม
Yes, I have./ No, I haven’t.

Time Line เส้นเวลา

timeline present perfect tense
มาดูไทม์ไลน์กันดูซิ ทีบอกว่า tense นี้ใช้บอกกล่าวเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต ดำเนินมาถึงปัจจุบัน และน่าจะดำเนินต่อไปอีกในอนาคต เป็นเช่นไร
  • สีดำคือ อดีตที่หมองหม่น
  • สีส้มคือปัจจุบันที่สดใส
  • สีชมพู คือ อนาคตที่เรืองรองผ่องอำไพ
  • ลูกศรสีขาวไซร้คือเหตุการณ์
  • เส้นทึบคือระยะเวลาของเหตุการณ์ (ค่อนข้างยาวนาน)
  • เส้นทึบสีขาวคือระยะเวลาที่เหตุการณ์เกิดขึ้นแล้ว
  • เส้นทึบสีเหลืองคือระยะเวลาที่คาดว่าเหตุการณ์อาจจะดำเนินต่อไป
จากภาพสามารถอธิบายได้ว่า มีเหตการณ์หนึ่งเกิดขึ้นในอดีต (เส้นทีบสีขาว) และก็ดำเนินมาถึงปัจจุบัน (ลูกศรสีขาว) และคงจะดำเนินต่อไปในอนาคต (เส้นทีบเหลือง)  ลองมาสมมติเหตุการณ์ดูสักสองเหตุการณ์แล้วกัน
♦ She has studied English since July.
หล่อนเรียนภาษาอังกฤษ ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม
เห็นเรียนมาตั้งแต่เดือนกรกรฎาจริง (เส้นทีบสีขาว) วันนี้ก็ยังเห็นไปเรียนอยู่ (ลูกศรสีขาว) และคิดว่าคงเรียนต่อไปเรื่อยๆมั้ง(เส้นทึบสีเหลือง) แต่ไม่แน่นะ วันนี้ไปเรียนเกิดไม่พอใจ แล้วไม่ไปอีกก็ได้ แต่ที่แน่ๆคือเรียนมานานพอควรจนถึงวันนี้แล้วกัน
♦ He’s worked in the garden since 8 o’clock.
เขาทำงานในสวนตั้งแต่ 8 โมงเช้า
เขามาทำงานตั้งแต่แปดโมงเช้าจริง (เส้นทึบสีขาว) ตอนนี้เวลา 11.00 ก็ยังทำในสวนนั่นแหละ (ลูกศรสีขาว)  และคิดว่าคงจะทำถึงเย็นมั้ง (เส้นทึบสีเหลือง) แต่ก็ไม่แน่อีกนั่นแหละ พอพักเที่ยงแล้ว อาจนอนหลับเพลินแล้วไม่มาทำต่อก็ได้ แต่ที่แน่ๆ ตั้งแต่ 8 โมงเช้าจนถึงตอนนี้เขาทำงานในสวนจริง เป็นพยานได้
สรุปว่าถ้านักเรียนต้องการบอกกล่าวเล่าขาน เหตุการณ์ที่เริ่มตั้งแต่อดีต และดำเนินมาจนถึงปัจจุบัน และคาดว่าจะดำเนินต่อไปในอนาคต   ให้ใช้โครงสร้าง

ประธาน +have, has + กริยาช่องที่ 3

“ถ้าคิดว่าเข้าใจแล้ว ลองไปอ่านสรุปหลักการใช้ดูนะครับ”
⇒ สรุปหลักการใช้ Tense 12

 กริยา 3 ช่องที่ใช้ในหน้านี้

ช่อง 1
ช่อง 2
ช่อง 3
คำแปล
studystudiedstudiedเรียน
workworkedworkedทำงาน
rainrainedrainedฝนตก
playplayedplayedเล่น
livelivedlivedอาศัย
watchwatchedwatchedดู
walkwalkedwalkedเดิน
buildbuiltbuiltสร้าง
gowentgoneไป
finishfinishedfinishedทำเสร็จ
drinkdrankdrunkดื่ม
eatateeatenกิน
washwashedwashedล้าง
readreadreadอ่าน
getgotgotได้รับ
be (is am are)was werebeenเป็น อยู่ คือ
cutcutcut